ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

"สดศรี"แฉ ส.ว."ล็อบบี้"กกต.ทบทวนคำวินัจฉัยหุ้น "สมชาย"ท้าบอกชื่อคนวิ่งเต้น ปธ.ส.ว.สวนกลับพูดไม่จริง

วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 เวลา 13:30:19 น.  มติชนออนไลน์

"สดศรี"แฉ ส.ว."ล็อบบี้"กกต.ทบทวนคำวินัจฉัยหุ้น "สมชาย"ท้าบอกชื่อคนวิ่งเต้น ปธ.ส.ว.สวนกลับพูดไม่จริง

"สดศรี"แฉมีส.ว.พยายาม"ล็อบบี้"กกต.ทบทวนคำวินัจฉัยหุ้นสัมปทานรัฐและสื่อ ขณะที่"ส.ว.สมชาย"เชื่อไม่มีใครทำแน่ ท้าให้บอกชื่อคนวิ่งเต้น บอกออกมาพูดแบบนี้ทำให้ ส.ว.เสื่อมเสีย ปธ.สว.สวนกลับพูดไม่จริง ถ้าล็อบบี้ ต้องมาทำกับตน

นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมว่า มีวุฒิสมาชิกบางคนในกลุ่ม 16 ส.ว.ที่ถูกคำวินิจฉัยให้สิ้นสภาพ จากกรณีถือหุ้นบริษัทที่ได้รับสัมปทานรัฐ อาศัยช่วงที่ประธานวุฒิสภายังไม่ส่งคำวินิจฉัยของ กกต.ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ พยายามวิ่งเต้นล็อบบี้ให้ กกต.ทบทวนคำวินิจฉัยดังกล่าวอีกครั้ง


นางสดศรี กล่าวว่า กกต.ได้แจ้งกลับไปแล้วว่า จะไม่มีการทบทวนคำวินิจฉัยดังกล่าวอีกแล้ว และหากต้องการจะให้ทบทวน ก็ควรจะนำหลักฐานไปต่อสู้ในชั้นการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมากกว่า เพราะในส่วนของ กกต.นั้นถือว่าได้ทำงานจบกระบวนการแล้ว


ส่วนการที่ประธานวุฒิสภายังไม่ส่งคำวินิจฉัยของ กกต.ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าต้องการตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้อง ภายหลังพบว่ามีเอกสารเกินมา 5 แผ่นนั้น นางสดศรี กล่าวว่า ควรจะต้องเป็นหน้าที่ของผู้ที่ร้อง คือนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ควรจะไปดำเนินการร้องเรียนการทำงานของประธานวุฒิสภาฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่มากกว่า


นางสดศรี ยังได้ยืนยันว่า กกต.จะยังคงใช้มาตรฐานเดิมที่ใช้ในการพิจารณากรณี 16 ส.ว.และ 13 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มาใช้ในการพิจารณากรณี 44 ส.ส.แน่นอน และเชื่อว่าการเข้ามาทำหน้าที่ กกต.คนใหม่ของนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น จะไม่ทำให้มาตราฐานดังกล่าวเปลี่ยนแปลงได้แน่นอน เพราะการวินิจฉันเดิมได้ผูกพันทั้ง 3 กกต.ไปแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่านายวิสุทธิ์ จะอยู่ในกลุ่ม 3 หรือ 1 ก็ไม่ทำให้การวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงไปได้


วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา 1 ใน 16 ส.ว.ที่ถูกกกต.วินิจฉัยให้ขาดคุณสมบัติเนื่องจากถือหุ้นในธุรกิจสื่อหรือบริษัทที่รับสัมปทานจากรัฐ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ตนแต่นอน และไม่เชื่อว่า จะมีใครใน ส.ว.ทำแบบนี้ เพราะการวินิจฉัยของกกต.ถือเป็นอำนาจตามกฎหมาย ไม่มีใครจะวิ่งเต้นเพื่อเปลี่ยนมติได้ การที่นางสดศรี อ้างแบบนี้ทำให้เกิดความเสียหายกับส.ว. จึงขอให้เปิดเผยชื่อออกมาว่า ใครทำ เพราะ

 

"ตอนนี้ ส.ว.ก็เป็นจำเลยสังคมไปแล้วทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาด ทั้งนี้ ตอนนี้ 16 ส.ว.กำลังเตรียมการชี้แจงในชั้นศาลรัฐธรรมนูญในประเด็น เจตนารมณ์ของกฎหมาย การได้หุ้นมาก่อนรับตำแหน่ง และจำนวนหุ้นที่มีน้อยมากซึ่งไม่สามารถแทรกแซงได้ และกำลังพิจารณาช่องทางร้องไปยังศาลปกครองขอความเป็นธรรมในการวินิจฉัยของกกต.ด้วย" นายสมชาย กล่าว

 

ขณะที่ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา แถลงตอบโต้นางสดศรีว่า เรื่องการล็อบบี้ไม่เป็นความจริง เพราะขณะนี้คำวินิจฉัยของกกต.ยังอยู่ในความรับผิดชอบของตน และไม่มีใครขอให้ตนส่งคำวินิจฉัยดังกล่าวกลับไปยังกกต.เพื่อให้ทบทวน หากจะล็อบบี้ ต้องมาล็อบบี้ตน แต่ที่ไม่ผ่านไม่มีใครมาล็อบบี้ตน หากล็อบบี้จริง ตนคงไม่สามารถส่งกลับไปยังกกต.ได้ เพราะถือว่าข้อเท็จจริงที่ว่า ส.ว.เหล่านั้นถือหุ้นในสัมปทานของรัฐและสื่อยุติแล้ว เหลือเพียงข้อกฎหมายที่ต้องศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย

 

"เมื่อกกต.ส่งคำวินิจฉัยมาแล้วไม่มีวันที่จะทบทวนคำวินิจฉัยได้อีกแล้ว คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้ว คงต้องปล่อยไปตามกระบวนการและตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็ได้คัดสำนวนให้ ส.ว.ทั้ง 16 คนไปศึกษาแล้ว โดยแต่ละสำนวนมีความหนาถึง 3 พันกว่าหน้า ดังนั้น ส.ว.ทั้ง16 คนก็คงต้องใช้เวลาศึกษาสำนวนเพื่อต่อสู้ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญต่อไป ผมไม่เชื่อว่า ส.ว.ใน16 คนนี้จะล็อบบี้เพื่อให้ทบทวนคำวินิจฉัยและถ้าให้ทบทวนคำวินิจฉัยคนที่ไม่ถูกตัดสินให้สมาชิกภาพก็จะลำบาก แต่ก็ไม่รู้ว่านางสดศรีเอาข้อมูลมาจากไหน" นายประสพสุข กล่าว

 

ส่วนกรณีที่ ส.ว.บางส่วนยื่นร้องต่อศาลปกครองนั้น ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่อยากให้ไปร้องศาลปกครอง เพราะอยากให้กระบวนการไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ทราบว่าใน ส.ว.16 คนนี้คงไม่ยื่นร้องไปยังศาลปกครองทั้งหมด หากเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้วก็มีความเป็นไปได้ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของ กกต. เพราะการวินิจฉัยถือเป็นเรื่องดุลพินิจและความเห็นทางกฎหมายสามารถแตกต่างกันได้ ทั้งนี้ไม่คิดว่าหากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ตรงกับกกต.ก็ไม่เห็นว่ากกต.ต้องลาออก เพราะถือเป็นอำนาจของกกต.ที่มีคำวินิจฉัยตามหน้าที่ แต่ถ้าเป็นคำวินิจฉัยไม่สุจริตก็ต้องถือเป็นความผิด อย่างไรก็ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต้องถือเป็นที่สุด 



 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • "วิสุทธิ์"เริ่มงานกกต.วันแรก ยันปฏิบัติหน้าที่ยึดกฎหมาย
  • "ป๋าเหนาะ"ดักคอดุลพินิจ กกต.ฟัน"หุ้นส.ส." โจรลอยลำ ประเทศอยู่ลำบาก ไม่รู้สึกกดดัน"สุเทพ"ไขก็อก
  • "สุเทพ"ไม่หนักใจถูกเชือดพร้อม12ส.ส.ปชป.ย้ำไม่กระเทือน รบ."ไตรรงค์" ซัด กกต.ไม่มีความรู้หุ้น
  • กกต.เชือด13ส.ส.ปชป.ถือหุ้น"สุเทพ-ไตรรงค์-จุติ"งานเข้า "กษิต"รอดเมียถือหุ้นกู้บ.ทางด่วนไม่ขัด
  • http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1248230699&grpid=04&catid=01

    --
    ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
    http://www.sanamluang.bloggang.com
    http://tham-manamai.blogspot.com
    http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
    http://www.parent-youth.net
    http://www.tzuchithailand.org
    http://www.presscouncil.or.th
    http://ilaw.or.th
    www.patani-conference.net
    http://www.thaihof.org
    http://thainetizen.org
    http://www.ictforall.org
    http://elibrary.nfe.go.th
    http://dbd-52.hi5.com
    http://www.thaisara.com
    http://www.rmutr.ac.th
    http://www.bedo.or.th/default.aspx
    www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น